Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

การเกิดซากดึกดำบรรพ์

Posted By Plookpedia | 26 มิ.ย. 60
2,881 Views

  Favorite

การเกิดซากดึกดำบรรพ์

      ซากสิ่งมีชีวิตมีโอกาสกลายเป็นซากดึกดำบรรพ์ได้น้อยมาก การที่สิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วยังคงหลงเหลือซากหรือร่องรอยที่แปรสภาพเป็นซากดึกดำบรรพ์ได้ต้องมีกระบวนการที่สำคัญ ๒ ประการ คือ ประการแรกซากสิ่งมีชีวิตจะต้องถูกตะกอนปิดทับกลบฝังอย่างรวดเร็วหลังจากล้มตายลงจนทำให้ซากไม่ถูกทำลายสูญหายไปและประการที่ ๒ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีทำให้ซากดึกดำบรรพ์คงรูปอยู่ได้ก่อนที่ซากดังกล่าวจะปรากฏขึ้นบนพื้นดินอีกครั้งจากการกัดเซาะหรือการยกตัวของเปลือกโลก  

      เมื่อสิ่งมีชีวิตล้มตายลงส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อจะผุพังย่อยสลายหายไปคงเหลือแต่ส่วนที่เป็นโครงสร้างแข็ง เช่น เปลือกหอย กระดูก ที่ถูกทับถมอยู่ในชั้นตะกอนสารละลายแร่จากน้ำใต้ดินจะแทรกซึมเข้าไปอยู่ในโพรงเปลือกหอยหรือโพรงกระดูก  ทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงสีไปจากธรรมชาติดั้งเดิมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นหากน้ำใต้ดินมีแร่ซิลิกาสูงแทรกซึมเข้าไปแทนที่ในเนื้อไม้จะทำให้ได้ไม้ที่กลายเป็นหิน  บางครั้งอาจมีแร่ชนิดอื่นเข้าไปแทนที่แร่เดิมโดยที่โครงสร้างเดิมยังไม่เปลี่ยน เช่น แร่แมกนีเซียมหรือแร่เหล็กเข้าไปแทนที่แร่แคลเซียมหรือมีการจัดรูปผลึกใหม่ให้คงที่ เช่น เปลือกหอย โดยทั่วไปเป็นแร่อะราโกไนต์ซึ่งเป็นสารแคลเซียมคาร์บอเนตที่มีรูปผลึกไม่คงตัว เปลี่ยนไปเป็นแร่แคลไซต์ซึ่งเป็นสารแคลเซียมคาร์บอเนตที่มีรูปผลึกคงตัว นอกจากนี้ยังมีกระบวนการคาร์บอนไนเซชัน (carbonization) ซึ่งเป็นกระบวนการแปรเปลี่ยนซากสิ่งมีชีวิตบางชนิดเป็นคราบคาร์บอนสีดำมันแสดงรอยพิมพ์สิ่งมีชีวิตดังกล่าว เช่น รอยพิมพ์ใบไม้หรือแมลงในชั้นหินดินดานหรือหินทราย  ซากดึกดำบรรพ์นอกจากเป็นโครงสร้างแข็งของสิ่งมีชีวิตที่หลงเหลืออยู่แล้ว บางครั้งก็พบซากดึกดำบรรพ์ของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีเปลือกแข็งหุ้มได้เช่นกัน เช่น รอยพิมพ์ของแมลงในชั้นหินหรือในบางสภาวะแวดล้อมพบส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อ เช่น ซากช้างแมมมอทที่ถูกฝังอยู่ในชั้นน้ำแข็งบริเวณขั้วโลก ซากไดโนเสาร์ที่กลายเป็นมัมมี่ในทะเลทรายเนื่องจากอากาศแห้งทำให้ซากไม่เน่าเปื่อย หรือซากแมลงที่พบอยู่ในอำพัน นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการดำรงชีวิตของสัตว์ เช่น รอยเท้าสัตว์ รอยกัดแทะ มูลสัตว์ รูหรือรอยชอนไช แนวทางเดินของสัตว์ ซึ่งจัดเป็นซากดึกดำบรรพ์เช่นกัน

 

ซากแมลงในชั้นหิน
ซากแมลงในชั้นหิน

 

      ซากดึกดำบรรพ์สามารถพบได้ในหินตะกอน เช่น หินดินดาน หินทราย หรือหินปูน ทั้งที่พบโดยธรรมชาติจากการกัดเซาะของน้ำ ลม หรือบริเวณที่มีทางน้ำไหลผ่าน หรือริมชายฝั่งทะเลและในบริเวณที่มีการกระทำของมนุษย์ เช่น การตัดถนน การขุดเหมืองถ่านหิน หรือการระเบิดภูเขาทำเหมืองหิน ในการสำรวจหาซากดึกดำบรรพ์หากรู้อายุหินในบริเวณนั้นโดยคร่าว ๆ จากแผนที่ธรณีวิทยาจะทำให้คาดคะเนได้ว่า ควรจะพบซากดึกดำบรรพ์อะไรได้บ้าง เช่น ไดโนเสาร์ในประเทศไทยส่วนใหญ่พบในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีหินทรายและหินดินดานซึ่งเกิดจากการตกทับถมตามหนองบึงหรือทางน้ำโบราณ  มีอายุอยู่ในช่วงมหายุคมีโซโซอิกซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไดโนเสาร์ครองโลกหรือถ้าต้องการค้นหาซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์ทะเลควรหาบริเวณที่มีภูเขาหินปูน  เนื่องจากหินปูนเป็นแหล่งสะสมของตะกอนทางเคมีของสารคาร์บอเนตที่เกิดจากโครงสร้างของเปลือกหอย ปะการัง และสัตว์ทะเลหลายชนิด

 

ซากสัตว์เลื้อยคล้านที่อาศัยในทะเล
ซากสัตว์เลื้อยคล้านที่อาศัยในทะเล 
อยู่ในชั้นหินปูน พบที่ จ.พัทลุง

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow